วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2565) เวลา 09.00 น.นายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงาน “ต้นบุญจุลกฐินคืนถิ่นภูไท” ณ วัดป่าแก้ว บ้านกกแดง ตำบลกกแดง อำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร โดยเป็นความร่วมมือ ของ ชาวบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) ร่วมแรงร่วมใจ จัดเป็นปีที่ 3 เพื่อสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน

   ประเพณีจุลกฐินเป็นกลไกที่สำคัญที่สร้างความสมัครสมานสามัคคีของชาวบ้านกกแดงที่ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ เพื่อสร้างบุญจุลกฐินซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นกุศลอันแรงกล้ามากกว่าการทำบุญกฐินทั่วไปถึง 10 เท่าคนไทยสมัยก่อนเรียกว่ากฐินแล่น ในภาคอีสานปัจจุบันยังมีเรียกชื่อนี้อยู่ วิธีทำบุญจุลกฐินนี้ต้องมีกระบวนการขั้นตอนตั้งแต่เก็บดอกฝ้ายมาปั่นเป็นเส้นใยและทอให้เป็นผืนผ้าจุลกฐินให้เสร็จภายในวันเดียวรุ่งเช้าก็นำไปถวายพระสงฆ์จึงต้องใช้กำลังคนมากและต้องมีความสามัคคีมากด้วยจึงจะบรรลุจุดหมายแห่งศรัทธาอันแรงกล้านี้ได้

   นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอนิคมคำสร้อยกล่าวว่า ชาวบ้านกกแดง อำเภอนิคมคำสร้อยยังอนุรักษ์สืบสาน งานจุลกฐิน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเผ่าผู้ไท ให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน และการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ยังมีการจัดแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตภูมิปัญญาท้องถื่นตั้งแต่สมัยโบราณ มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าโอทอป ภายในงาน ระว่างวันที่ 4- 5 พฤศจิกายน นี้

   สำหรับงาน “ ต้นบุญจุลกฐินคืนถิ่นภูไท” โดยเริ่มตั้งแต่เปิดประตูสวนฝ้าย เก็บดอกฝ้ายในตอนเช้ามืดมีขวนแห่ และการแสดงก่อนนำดอกฝ้ายมมอบให้ประธานในพิธีเพื่อมอบต่อให้กลุ่มแม่บ้าน เข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน ตั้งแต่แยกเม็ดฝ้าย ตีฝ้ายเป็นปุยฟู กรอเป็นเส้นด้าย และนำไปทอเป็นผืนผ้าไตร จีวร โดยต้องทำให้เสร็จภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง (1 วัน)

   จุลกฐิน นับเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามที่สืบทอดภูมิปัญาวิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรมภูไทให้คนรุ่นหลังได้รู้จักอย่างแพร่หลายรวมทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนได้อีกด้วย

.

ข่าว - วันวิภา แพงแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร