วันนี้ (10 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมแก่งกระเบา นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต และ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 เป็นประธานร่วมการประชุมหารือข้อราชการและการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรของจังหวัดมุกดาหารและด่านสากลของแขวงสะหวันนะเขต

   ตามที่ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ว่า รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ออกแจ้งการเปิดด่านสากลทุกด่านสำหรับการเดินทางเข้า - ออก สปป. ลาวของบุคคล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นั้น เพื่อให้การสานต่อความร่วมมือระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต ภายหลังการเปิดจุดผ่านแดนถาวรของจังหวัดมุกดาหารและด่านสากลของแขวงสะหวันนะเขต รวมทั้งการรับฟังนโยบายการส่งเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างไทย กับ สปป.ลาว ในระดับพื้นที่ ทั้งในเรื่องของสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ปัญหาและอุปสรรคของการเปิดด่านในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้เสนอให้มีการปรับมาตรการในการเดินทางเข้า-ออก ประเทศทั้งสองฝั่ง ให้มีความสอดรับกันมากขึ้น อย่างเช่น ข้อเสนอให้มีการผ่อนคลายสำหรับนักท่องเที่ยวสำหรับการทำประกันภัย การผ่อนคลายมาตรการการตรวจ RT-PCR ผู้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การนำเข้าแรงงาน การป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยข้อราชการต่างๆ จะได้เสนอคณะกรรมการฯ ในระดับจังหวัด เพื่อออกเป็นประกาศในลำดับต่อไป

   จากนั้นเวลา 14.00 น. ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าในการเปิดด่านฯ ทั้ง 2 จุด ของจังหวัดมุกดาหาร เพื่อจะได้เห็นสภาพปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 กล่าวว่า สบค.มีนโยบายในการที่จะผ่อนปรนให้ด่านชายแดนถาวรระดับประเทศมีการเดินทางผ่านไปมาของประชาชนทั้งสองฝั่งได้ โดยเฉพาะไทยกับลาว ซึ่งก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้มากที่สุด แต่ยังมีข้อห่วงใยเล็กน้อย เช่น ในประเด็นของการที่อยู่มากกว่า 3 วัน ต้องใช้พาสปอร์ต ก็ยังติดขัดเรื่องการลงทะเบียน Thailand Pass อยู่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นประเด็นที่จะได้นำข้อมูลไปยัง สบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการผ่อนปรนในส่วนนี้ต่อไป